กรมพัฒนาที่ดิน
พร้อมก่อสร้างแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน "บ่อจิ๋ว"
ปีงบประมาณ 2561 จำนวน 45,000 บ่อ เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำ
ทำการเกษตรในช่วงแล้ง ในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดอย่างโปร่งใส
เป็นธรรม |
|
|
|
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
มอบหมายให้ กรมพัฒนาที่ดินจัดทำโครงการแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน
โดยการขุดสระน้ำในไร่นา ขนาด 1,260 ลูกบาศก์เมตร และให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในการออกค่าใช้จ่าย
2,500 บาท/บ่อ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการบรรเทาสภาพปัญหาภัยแล้ง
การขาดแคลนน้ำ และเพิ่มประสิทธิภาพ การเก็บกักน้ำในพื้นที่ทำการเกษตรของเกษตรกร
เพื่อเกษตรกรในพื้นที่นอกเขตชลประทานได้มีแหล่งน้ำที่เหมาะสม กับการเกษตร
เป็นการสนับสนุนการทำเกษตรแบบผสมผสานตามหลักทฤษฎีใหม่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
|
|
|
สำรวจและรวบรวมรายชื่อเกษตรกรที่มีความต้องการสระน้ำ |
|
|
สำรวจความต้องการของเกษตรกรที่มีความสนใจแจ้งความจำนงเข้าร่วมโครงการด้วยความสมัครใจ
ซึ่งเกษตรกรจะต้องกรอกรายละเอียดความต้องการลงในใบสมัคร และเจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาที่ดิน
จะเรียงลำดับความต้องการเป็นข้อมูลรวบรวมเก็บไว้
เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ
1
พื้นที่ขุดสระน้ำ จะต้องเป็นพื้นที่ทำการเกษตรที่เกษตรกรเป็นเจ้าของและมีเอกสารสิทธิ์
และมีหนังสือยินยอมให้เข้าดำเนินการขุดสระน้ำ
2.
เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจะมีส่วนร่วมในการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการขุดสระน้ำ
เช่น ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าขนย้ายเครื่องจักรกล จำนวน 2,500
บาทต่อบ่อ ให้ผู้รับจ้าง
กรมพัฒนาที่ดิน
โดยสถานีพัฒนาที่ดิน ตรวจสอบความเหมาะสมของพื้นที่ขุดสระน้ำ และความพร้อมของ
เกษตรกร |
|
|
|
1.
คัดเลือกเกษตรกรจากแผนความต้องการสระน้ำที่เกษตรกรได้มายื่นความจำนงไว้แล้ว
โดยนำความต้องการของเกษตรกรที่มาแจ้งความจำนงในการก่อสร้างแหล่งน้ำในไร่นา
พิจารณาความสำคัญจากจังหวัดที่มีความต้องการมาก มาพิจารณากำหนดเป้าหมายและให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ
|
2.
สถานีพัฒนาที่ดินและหมอดินอาสาประจำตำบล/หมู่บ้าน สำรวจศักยภาพของพื้นที่และความพร้อมของเกษตรกรที่แจ้งความต้องการขุดสระน้ำไว้แล้ว |
2.1
เกษตรกรมีความตั้งใจประกอบอาชีพทางการเกษตร มีความพร้อมเข้าร่วมโครงการ
และสามารถมีส่วนร่วมในการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการขุดสระน้ำ
บ่อละ 2,500 บาท |
2.2
เกษตรกรเป็นเจ้าของพื้นที่ก่อสร้างที่ใช้เป็นพื้นที่ทำการเกษตร
มีเอกสารสิทธิ์ และหนังสือยินยอมให้เข้าดำเนินการก่อสร้าง |
|
|
การคัดเลือกพื้นที่เป้าหมาย |
|
|
1.
พื้นที่ซึ่งจะดำเนินการก่อสร้างแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทานขนาด
1,260 ลูกบาศก์เมตร ต้องเป็นของเกษตรกรที่เป็นผู้ถือครองที่ดิน
หรือเกษตรกรที่เป็นเจ้าของที่ดิน โดยต้องมีหลักฐานเอกสารสิทธิ์ที่หน่วยงานรัฐเป็นผู้ออกให้
ได้แก่ โฉนด น.ส.3 น.ส.3 ก. น.ส.2
น.ส.2 ก. ส.ป.ก. 4-01 ส.ป.ก.4-14
ส.ป.ก.4-18 น.ค.3 ก.ส.น.5
ส.ค.1 คทช. และพื้นที่โครงการพระราชดำริ ที่มีการจัดสรรที่ดินทำกินให้เกษตรกร
สำหรับ น.ส.2 และ น.ส.2 ก. ต้องมีการตรวจสอบ ดังนี้ |
1.1
ผู้มีความประสงค์จะให้กรมพัฒนาที่ดิน ดำเนินการขุดสระน้ำ ต้องเป็นบุคคลเดียวกันกับผู้มีสิทธิตามเอกสารสิทธิในที่ดินประเภทใบจอง
เว้นแต่กรณี ผู้มีสิทธิดังกล่าวเสียชีวิตแล้ว ผู้รับมรดกโดยชอบด้วยกฎหมายอาจเป็นผู้ยื่นคำขอดังกล่าวแทนได้
(เอกสารสิทธิประเภทใบจองไม่สามารถทำการซื้อขายหรือให้โดยเสน่หาได้)
|
1.2
ต้องมีการตรวจสอบว่าผู้รับใบจองหรือผู้รับมรดกโดยชอบด้วยกฎหมาย
ได้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวแล้วจริง |
2.
เป็นพื้นที่ที่อยู่นอกเขตชลประทาน ขาดแคลนระบบที่จะจัดส่งน้ำไปถึงได้ตลอดปี
และประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเป็นประจำ หรือแล้งซ้ำซาก ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้จากการเข้าไปตรวจสอบพื้นที่
หรือสอบถามเจ้าหน้าที่ของกรมชลประทานในพื้นที่ โดยสถานีพัฒนาที่ดิน
ควรจะมีการทำรายงานบันทึกข้อสังเกตไว้ |
3.
คัดเลือกพื้นที่ก่อสร้างแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทานตามเงื่อนไขของโครงการ
เป็นลำดับแรก คือเป็นพื้นที่ที่มีประสิทธิภาพในการเก็บกักน้ำ โดยพิจารณาจากคุณสมบัติของดิน
หลีกเลี่ยงพื้นที่เป็นดินทรายจัด พื้นที่เกลือขึ้นเป็นดินเค็ม
พื้นที่ซึ่งมีก้อนหินขนาดใหญ่ ซึ่งหากก่อสร้างไปจะทำให้ไม่สามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้ได้นาน
และคุณภาพน้ำไม่ดี และควรพักการปลูกพืช เพื่อความสะดวกในการเข้าไปดำเนินการก่อสร้าง
โดยเจ้าหน้าที่บริษัทผู้รับจ้างร่วมกับสถานีพัฒนาที่ดินและหมอดินอาสา
จะเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ที่คัดเลือกและสอบถามเกษตรกร |
4.
พื้นที่ดำเนินการควรมีขนาดไม่น้อยกว่า 30 x 40 ตารางเมตร โดยจะใช้ก่อสร้างสระอย่างน้อย
20 x 30 x 2.1 เมตร เพื่อให้เครื่องจักรสามารถทำงานได้โดยสะดวก
และสามารถทำการเกลี่ยดิน ตกแต่งคันบ่อได้อย่างเรียบร้อย |
ทั้งนี้
พื้นที่ดำเนินการควรมีการจัดกลุ่มเป้าหมายการจัดสรรพื้นที่ก่อสร้างให้มีขนาดของกลุ่มและ
การกระจายตัวของสระเก็บน้ำให้เหมาะสมกับการบริหารจัดการเครื่องจักรกล
ได้แก่ การจัดชุด
เครื่องจักรกลเข้าทำงาน การเคลื่อนย้ายเครื่องจักรกลให้มีขนาดเหมาะสมกับระดับเศรษฐกิจ
(Economy of Scale) ซึ่งจะมีผลต่อการดำเนินการที่ทันเวลา และคุ้มค่ากับการลงทุน
ทั้งในเขตพัฒนาที่ดินและยุทธศาสตร์จังหวัดอย่างสัมฤทธิ์ผล |
|
|
การดำเนินงานของสถานีพัฒนาที่ดิน |
|
|
1.
สถานีพัฒนาที่ดิน/ หมอดินอาสาประจำตำบล จัดประชุมชี้แจงรวมกลุ่มเกษตรกรที่คัดเลือกแล้ว
เพื่อชี้แจงขั้นตอนการดำเนินงาน และซักซ้อมความเข้าใจ |
2.
จัดลำดับบัญชีรายชื่อเกษตร ที่มีความพร้อมที่จะดำเนินการขุดสระน้ำหลังผ่านการชี้แจง
|
3.
สถานีพัฒนาที่ดินดำเนินการจัดซื้อ จัดจ้าง ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ
พ.ศ. 2535 ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. 2549 และ พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
พ.ศ. 2560 |
4.
เมื่อได้ผู้รับจ้างแล้ว จึงจัดทำรายงานขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกรมพัฒนาที่ดิน
|
5.
ดำเนินการทำสัญญา และกำกับติดตามดูแลการปฏิบัติงานตามข้อตกลงที่ทำไว้
ระหว่างสถานีพัฒนาที่ดิน กับผู้รับจ้าง โดยเกษตรกรเจ้าของที่ดินเป็นผู้ระบุตำแหน่งขุดสระน้ำ
กรมพัฒนาที่ดิน ให้คำปรึกษาแนะนำ ตรวจสอบความเหมาะสม การเลือกรูปแบบของสระน้ำขนาด
1,260 ลบ.ม. สามารถปรับได้ตามความเหมาะสมของพื้นที่ และวางแนวการขุดสระน้ำตามที่ต้องการ
ตามแบบที่กรมฯ กำหนด การกำกับการปฏิบัติงาน
ให้ใช้กรอบแนวทางตามที่ผู้รับจ้างได้ทำแผนการปฏิบัติการก่อสร้างแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน
ในแต่ละพื้นที่ไว้ภายในระยะเวลาที่กำหนด |
6.
เจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาที่ดินดำเนินการสอบถามความต้องการของเกษตรกรในการใช้ประโยชน์แหล่งน้ำ
และบูรณาการการพัฒนาอาชีพให้แก่เกษตรกรร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ได้แก่ กรมประมง กรมปศุส้ตว์ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร
และหน่วยงานสนับสนุนอื่น ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
|
|
|
|
คู่มือการดำเนินงานโครงการแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน
(ปรับปรุงครั้งที่ 1)
กรมพัฒนาที่ดิน
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
สถานีพัฒนาที่ดินจังหวัด ทั่วประเทศ |
|
|